ตู้ทำน้ำร้อนน้ำเย็น Sharp SB-65Bถังน้ำล่าง

ตู้น้ำดื่ม SHARP SB-65B

• เครื่องทำน้ำร้อน-น้ำเย็น SHARP รุ่น SB-65B
• ดีไซน์ใหม่โดยบรรจุถังน้ำไว้ด้านล่างตัวเครื่อง เพื่อความสะดวกในการเปลี่ยนถังเก็บน้ำโดยไม่ต้องยกถังน้ำ
• รูปลักษณ์สวยงาม หรูหราและทันสมัย
• 3 ปุ่มกดจ่ายน้ำพร้อมระบบนิรภัยหัวจ่ายน้ำร้อน มีให้เลือกอุณหภูมิทั้งน้ำร้อน น้ำอุณหภูมิห้อง และน้ำเย็น
• ระบบนิรภัยที่หัวจ่ายน้ำร้อน ป้องกันน้ำลวกโดยน้ำร้อนจะไม่ไหลหากไม่กดปุ่มนิรภัย
• ไฟส่องสว่างบริเวณหัวจ่ายน้ำ สะดวกต่อการใช้งานแม้ในที่มืด
• สามารถทำอุณหภูมิน้ำเย็นได้ตั้งแต่ 3 - 10 องศาเซลเซียส และทำอุณภูมิน้ำร้อนได้ตั้งแต่ 80 - 90 องศาเซลเซียส
• ระบบสัญญาณไฟกระพริบเตือนเมื่อน้ำใกล้หมดถัง และเมื่อน้ำหมดถัง
• มีแผ่นดูซับเสียง ช่วยลดเสียงขณะที่คอมเพรสเซอร์ทำงานเต็มที่
• การรับประกันคอมเพรสเซอร์สูงสุด 5 ปี *สินค้าไม่รวมถังน้ำ รูปถังน้ำใช้ประกอบการถ่ายภาพเพื่อโฆษณาเท่านั้น
• ข้อมูลทางเทคนิค
• รุ่น : SB-65B
• แรงดันไฟฟ้า : 220 โวลท์
• ความถี่กระแสไฟฟ้า : 50 เฮิรตซ์
• กำลังไฟฟ้าเข้าสูงสุด : 610 วัตต์
• กำลังไฟฟ้าไส้ความร้อน : 600 วัตต์
• กำลังไฟฟ้าระบบทำความเย็น : 100 วัตต์
• ความสามารถในการทำน้ำเย็น : 5.5 ลิตรต่อชั่วโมง
• ความสามารถในการทำน้ำร้อน : 6 ลิตรต่อชั่วโมง
• กระแสไฟฟ้าสูงสุด : 3.5 แอมแปร์
• ปริมาณสารทำความเย็น R-134a : 23 กรัม
• คำเตือน
• 1. เสียบปลั๊กเข้ากับเต้ารับแบบ 3 ขาที่มีการต่อระบบสายดิน และห้ามถอดขาสายดินจากปลั๊กเสียบออก
• 2. ห้ามเสียบปลั๊กเข้ากับเต้ารับแบบพ่วง
• 3. การเคลื่อนย้ายหรือติดตั้ง รวมทั้งการบรรจุขวดน้ำ ไม่ควรกระทำเพียงคนเดียว
• 4. อุณหภูมิน้ำที่เติมเข้าเครื่องไม่ควรเกิน 35 องศาเซลเซียส เพราะจะทำให้เครื่องทำงานหนักและห้ามใช้กับเครื่องดื่มชนิดอื่น
• 5. หากเครื่องทำงานผิดปกติ ห้ามแก้ไขด้วยตนเอง เพื่อความปลอดภัยและสามารถใช้เครื่องได้เต็มประสิทธิภาพ ควรติดต่อศูนย์บริการชาร์ปใกล้บ้านท่าน เพื่อแจ้งซ่อมแซม
• ข้อควรระวัง
• 1. เมื่อไฟฟ้าดับกระทันหันหรือไฟฟ้าภายในบ้านตก ควรถอดปลั๊กออกเพื่อป้องกันไม่ให้คอมเพรสเซอร์เสียหาย
• 2. ไม่ควรถอดปลั๊กในเวลากลางคืน เพราะเครื่องมีการตัดต่อการทำงานโดยอัตโนมัติ
• 3. การขนส่งอาจวางเครื่องแนวนอน ดังนั้นก่อนใช้งานควรตั้งทิ้งไว้ก่อนประมาณ 24-48 ชั่วโมง เพื่อให้น้ำยาในคอมเพรสเซอร์ไหลกลับระดับคงที่ แล้วจึงเสียบปลั๊กใช้งานตามปกติ
• 4. อย่าเสียบปลั๊กขณะมือเปียก เพราะอาจทำให้ได้รับอันตรายจากไฟฟ้ารั่วได้
• 5. การเสียบหรือถอดปลั๊กทุกครั้ง ควรจับที่หัวปลั๊ก อย่าดึงหรือกระชากสายไฟ เพราะอาจทำให้สายไฟชำรุดได้
• 6. หากถอดปลั๊กเพื่อปิดการทำงานของเครื่องและต้องการเปิดเครื่องอีกครั้ง ควรรอเวลาอย่างน้อย 3 นาทีเพื่อป้องกันเครื่องเสียหาย